ป้ายภัคพลฟาร์ม

ป้ายภัคพลฟาร์ม
ภัคพลฟาร์มสุรินทร์

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ซัวเถาตอนที่ห้า

วันนี้ตื่นแต่เช้า (19/10/2015) ด้วยความตั้งใจจะไปเดินดูตลาด ไปตลาดก็พบว่าพ่อค้าแม่ค้าก็เหลือไม่เยอะแล้วอาจเป็นเพราะว่าสายแล้วด้วย ประมาณ เก้าโมง แดดของเมืองจีนนี่ก็แรงเหมือนกัน มีลืมเอื่อยๆแรงบ้างบางช่วงเพราะติดกับแม่น้ำ หมู่บ้านบริเวณนี้วิถีชีวิตผูกติดกับแม่น้ำ เพราะอยูติดแม่น้ำ มองลงไปในแม่น้ำยังคงเป็นขยะบ้าง อาจจะเรียกได้ว่า ไม่ได้เยอะมากหากเทียบกับบ้านเรา ร้อยเปอร์เซ็นจะเห็นขยะ ห้าถึงสิบเปอร์ ขนาดตลาดก็พอๆกับตลาดน้อยรื่นรมย์ของจังหวัดสุรินทร์ ด้วยภูมิศาสตร์ที่คล้ายๆกัน เนื่องจากตลาดแห่งนี้ติดกับโรงเรียนด้วย และ ตลาดน้อยสุรินทร์ก็ติดกับโรงเรียนเช่นกัน ของกินไม่แพงมาก อาจจะเป็นเพราะตลาดหมู่บ้านระดับตำบลอะไรทำนองนั้น คนจะรู้จักกันหมด เราเดินไปก็เหมือนคนแปลกหน้า พ่อก็แวะซื้อขนมปังกินชิ้นหนึ่ง ก็ราคาสองหยวน สิบสองบาทเอง เป็นร้านแบบเบเกอรี่ทำเอง คงคล้ายๆกับร้านหนมปังยี่สิบบาทบ้านเรา แต่เก่ากว่าหน่อย เดินเลยตลาดไปก็จะเป็นโซนบ้านพักอาศัยโบราณ จะเรียกว่าชุมชนแออัดก็ไม่ได้เพราะเป็นชุมชนบ้านโบราณ ที่อยูกันแบบตระกูล หรืออยู่กันแบบหมู่บ้านหนึ่ง หนึ่งตระกูล โดยพื้นฐานคนจีนมีความคิดการเป็นอยู่คล้ายๆคนไทย คือการอยู่แบบครอบครัวใหญ่ เลยเกิดลักษณะความเป็นอยู่คือ หนึ่งหมู่บ้านหนึ่งแซ่ขึ้นมา คนจีนผูกผันกับการไหว้พระไหว้เจ้าเป็นอย่างมาก ทุกหมู่บ้านจะมีศาลเจ้าอยู่ มีศาลตระกูลด้วย หากเป็นศาลตระกูลจะมีการล็อคไว้ และมีคนเฝ้าอยู่ หากจะเข้าไปเยี่ยมชมศาลตระกูลต้องมีการนัดล่วงหน้า เพราะคนเฝ้าเค้าไม่ได้อยู่ตลอด พอเดินวนเสร็จรอบหนึ่ง ก็มายืนเล่นใกล้บ้านญาติซึ่งมีรุ่มเงาของตึกและติดแม่น้ำเลยลมเย็นดี ลูกสะใภ้ญาติอาจจะขับรถตามหา เลยแวะมาทักเรา เค้าบอกว่าเค้าจะพาไปเดินห้างแก้เบื่อ แล้วเราก็เดินกลับบ้าน ญาติพาไปเดินห้างท้องถิ่น เป็นห้างแบบท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่พวก โลตัส บิ๊กซี อันที่จริงไม่ค่อยเห็นห้างฝรั่งเลยในจีน อาจเป็นเพราะการกีดกันทางการค้ารึเปล่าไม่แน่ใจ ถ้าเมืองไทยบ้านเราเปิดเต็มแล้วแหละ เป็นห้างท้องถิ่นที่ของค่อนข้างครบ ทั้งของกินของใช้ เครื่องสำอาง แต่มีแค่ชั้นเดียว เปรียบเทียบคงเหมือนร้านเมย์ ในจังหวัดสุรินทร์ครับ ผมก็เดินดูตามปกติไม่ได้มีอะไรติดมือกลับ ญาติกับหลานก็ซื้อเยอะแยะเต็มรถเข็น กลับบ้านก็นั่งพักผ่อน ญาติบอกว่าจะพาไปเที่ยวห้างในเมือง ก็แวะไปญาติอีกคนทีคอนโด เค้าก็ต้อนรับดี ดูเค้าเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วสำหรับเดินทาง แต่หลานๆบ้านญาติซนมาก วิ่งเล่นวุ่น เป็นคอนโดขนาดใหญ่ คาดว่าใหญ่กว่า ร้อยห้าสิบตรม. ค่อนข้างหรูหรา มีกล้องวงจรปิดพร้อมสรรพส่องหน้าประตูชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างดี ไปเจอกับหลานสาวและหลายชาย แล้วก็พากันไปห้างในตัวจังหวัดซัวเถา ตัวจังหวัดซัวเถา มีภูมิศาสตร์และความเจริญเทียบเท่ากรุงเทพบ้านเราก็ว่าได้หากเทียบด้วยสายตานะครับ ตึกรามบ้านช่อง ก็ประกอบด้วยตึกสูงมากมาย มีท่าเรื่อขนาดใหญ่ มีสะพานแขวง พอไปถึงห้าง ก็ไปจอดรถชั้นใต้ดินของห้าง ทีจอดรถก็มีที่จอดรถสองชั้น แบบ โครงเหล็กให้เห็นบ้าง แต่ไม่เห็นตอนที่มันใช้งานว่าเป็นยังไง สิ่งที่ทำให้ต้องแปลกใจคือ การฉี่ใส่ขวดของเด็ก เป็นเรื่องปกติ ทำไมเค้าขี้เกียจเข้าห้องน้ำกันเนาะ ห้างนี้ส่วนใหญ่เห็นวัยรุ่นในเมืองมาเดินเยอะมาก ลืมบอก ห้างนี้ชื่้อห้างซันนิ่ง ดูจากลักษณะแล้วเป็นห้างใหม่มาก และวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็มาเดินเป็นคู่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เปรียบเทียบแล้วคนเดินห้างเยอะกว่าบ้านเรา(โรบินสันสุรินทร์)เยอะมาก คนเดินเยอะครับ บันไดเลื่อนแทบไม่ว่าง เดินไปก็ไปดูยูนิโคลว่ก่อนเลย ชอปใหญ่มากพอๆกับ เอ็มควอเทียเลย แล้วก็เดินไปเรื่อย ญาติค่อนข้างเอาใจพ่อผมมาก เพราะมีศักเป็นอาเจ็กของพวกเค้า พ่อผมต้องการอะไรเค้าจะซื้อให้ พ่อผมเลยเกรงใจไม่กล้วซื้อเยอะ ได้แค่ชุดให้หลานสาวตัวเดียว พอเดินได้ซักรอบ ก็ไปโซนร้านอาหารซึ่งอยุ่ชั้นบนสุด ก็ ไปเลือกเมนูกัน พ่อผมแกอยากกินเป็ดอยู่แล้วก็เลยสั่งเป็ด สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุด ในร้านอาหารในห้างคือการไม่มีน้ำแข็ง แต่อาหารร้านนี้อร่อยมากเหมือนเป็นแบรนด์เฟรนไชส์จากฮ่องกงมั้ง มีโอกาสจะไปกินอีก พอกินเสร็จก็ แวะซื้อไอติมที่มีควันเป็นแบรนด์จาก สิงคโปร์ ก็งั้นแหละ เสียเวลารอตั้งนาน พอรอไปติมเสร็จ ไปรอ ชา gong cha อีกซักพักก็เดินไปขึ้นรถกลับ นึกว่าจะพากลับบ้านเลยแต่พาแวะสวนสาธารณะของเมือง ค่อนข้างเป็นแลนด์มาร์คของเมืองเหมือนกัน เปรียบได้เสมือน สวนลุมมั้วครับ มีผู้คนเยอะเหมือนกันแต่ประเด็นคือมันมืดมาก ตำรวจตรวจตราก็ไม่ค่อยเยอะ มืดชนิดทีว่าใช้แฟลสแล้วยังไม่ค่อยสว่างเลยครับ ต้องถ่ายประชิดแบบไม่เกิน เมตรถึงจะสว่างใช้ได้ เสร็จก็กลับบ้านบ้านกัน รอบๆสวนเหมือนจะเป็นที่เอกชน มีโต๊ะน้ำชาให้เช่านั่งจิบ แต่ไม่มีเวลานั่งจิบหรอกเลยขึ้นรถกลับ โอเครวันนนี้พอแค่นี้หมดวันพอดี กับวันเดินห้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น